ทริปจักรยาน @ สิงห์บุรี

29 เมษายน 2549

สิงห์บุรี

ต่างคนต่างมากันคนละทิศละทาง พอได้รับโทรศัพท์พี่ประวิทย์ ถึงไหนกันแล้วครับ มาถึงกันหรือยังครับ ต่างคนต่างก็โทรเช็คกัน พวกผม+พี่ระกา+พี่เขียว-จัง+webฯถา ยังปั่นกันอยู่ที่อ่างทอง พี่ Mickey+เจ้เล้ง เพิ่งรับพ่อใหญ่นิวส์ออกจากกรุงเทพฯ พี่หมอเจ ยังอยู่บ้าน เฮ้อ...ต่างคนต่างก็ยังไปไม่ถึงสิงห์บุรี ค่อยโล่งใจหน่อย ไม่ต้องปล่อยให้คอย ก็มีแต่พี่ประวิทย์ล่ะครับ คอยพวกเราอยู่เงกเลย สองล้อหมุนช้ากว่ากำหนดไปสักหน่อย ก็ไม่เป็นไรครับ ตราบเท่าที่ความซ่าส์ยังอยู่ในหัวใจ ความมันส์ก็ไม่หนีไปไหน เราเริ่มต้นด้วยการทริปด้วยการเข้าเมืองสิงห์บุรีหาร้านจักรยานเพื่อเปลี่ยนยางรถเจ้เล้งกันก่อนครับ พอไปถึงร้านแรก นับหนึ่ง พี่ประวิทย์ สองพี่หมอเจ สามพี่ระกา สี่พี่โบร่ำ ห้า...หก...เจ็ด ไปเรื่อย ๆ อ้าว !! พ่อใหญ่นิวส์หายไปไหน ลื้ม ลืม ทุกคนลืมกันซะสนิทเลย ลืมอะไรไม่ลืม ลืมคนตัวเบ่อเร่อ เบ่อร่า ก๊ากกกกก เดือดร้อนถึงพี่โบร่ำต้องขับรถย้อนไปที่ศาลาประชาคมปึงเถ่ากงม่า ไปรับพ่อใหญ่นิวส์กลับมาอีกรอบ สรุปว่าหายางเปลี่ยนให้รถเจ้เล้งไม่ได้ พี่ประวิทย์ในฐานะเจ้าภาพที่แสนดีก็ยกจักรยานให้เจ้เล้งปั่น ตัวเองไปนั่งรถพี่โบร่ำเพื่อนำทางและตามเป็นรถเซอร์วิสให้กับพวกเรา ชื่นใจ ชื่นฉ่ำในน้ำใจของพี่ ๆ ทุกท่านครับ พร้อมแล้ว จักรยาน 7 คัน อันมี พี่หมอเจ พี่ระกา พี่ Mickey เจ้เล้ง พี่เขียว-จัง นายถา และผม ตามด้วยรถพี่โบร่ำ อันมีผู้โดยสารคือ พี่หน่อย พี่ประวิทย์ พ่อใหญ่นิวส์ ชินจัง และบีจัง ก็ออกเดินทาง จุดหมายแรกเสาหลักเมืองสิงห์บุรีครับ จอดไหว้สักการะกันก่อนครับ

เริ่มแรกที่การสักการะศาลหลักเมืองกันก่อน...จากศาลหลักเมืองก็ออกเดินทางกันต่อ อากาศดีครับ แดดไม่ร้อนจัด ครึ้ม ๆ มัว ๆ พี่โบร่ำจอดรถเป็นระยะ ๆ คอยถ่ายภาพ และไถ่ถามความเป็นไปของนักปั่น เพิ่งได้รับรายงานจากเจ้านายพี่โบร่ำนะครับ ว่ามีรายการเบาะแว้งกันเล็ก ๆ บนรถด้วย คนนึงก็จะให้ขับเร็ว ๆ ล่วงหน้าไป อีกคนก็จะให้ขับช้า ๆ คอยดูแล คนขับก็เลย งง ๆ จะเอายังไงดีฟ่ะ

ทัศนียภาพสวยงามมาก ข้างทางเป็นท้องทุ่ง ถนนไม่มีรถผ่านเลย มีรถพี่โบร่ำคันเดียว ปั่นไปถ่ายภาพไปได้สบายมาก ฟ้าเริ่มเทาเข้มขึ้นทุกที แต่นักปั่นกำลังสบายเลยล่ะครับ ลมเย็น ๆ ไม่มีแสงแดด เรายังคงปั่นกันอยู่บนถนนสายเดิม สองข้างทางเป็นท้องนา บางช่วงก็ยังเป็นพื้นดินสีน้ำตาลเจิ่งนองไปด้วยน้ำ พร้อมที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์ บางช่วงก็กำลังเจริญเติบโต เริ่มแตกรวงให้เห็นบ้าง...ทิวทัศน์ข้างทางงดงามจริง ๆ ช่วงนี้ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาแล้วครับ

มาที่ประตูระบายน้ำบางระจัน ซึ่งอยู่ในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ของสำนักงานชลประทานครับ ปั่นเข้าไปภายในโครงการกัน...และเดินทางกันต่อครับ เราจะผ่านตัวตลาดชัณสูตรกันนิดนึง

ออกจากตลาดก็มาถึงวัดพระปรางค์และแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย ที่อำเภอบางระจันเป็นแห่งสุดท้าย ก่อนที่จะรีบปั่นกลับไปอีกราว ๆ 10 กม. ในขณะที่ฟ้ามืดลงทุกที ๆ เพราะแสงสุดท้ายจากดวงอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วประกอบกับฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่เกรงใจกันบ้างเล้ย บางคนก็มีประสบการณ์มาแล้วกับการปั่นฝ่าสายฝน บางคนก็ได้ลิ้มรสประสบการณ์ครั้งแรก ต่างก็สนุกสนานและได้รสชาติแตกต่างกันไป แต่เชื่อว่าสิ่งที่เหมือนกันก็คือ ทุกคนได้รับความชื่นใจจากน้ำใจของคนในทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมนักปั่นที่คอยดูแลกันเองตลอดเส้นทาง ทีมเซอร์วิสที่คอยดูแลนักปั่นอีกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าบ้านที่ให้การดูแลเป็นพิเศษ และทุกคนก็ได้รับความเย็นกายจากสายฝนที่กระหน่ำลงมาในช่วง 8 กม. สุดท้ายเท่าเทียมเสมอกันไม่ว่ามือเก่า และมือใหม่ เราคอยที่จะได้พบกันอีกในทริปหน้าครับ